ตรวจห้องคอนโด pantip จะต้องตรวจอะไรบ้าง คำถามที่ทุกคนตั้งคำถาม บางคนก็อยากจะตรวจด้วยตัวเอง เพราะจะได้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย หรือบางคนก็อยากจะจ้างตรวจ แต่ก็อยากรู้ว่าตรวจอะไรบ้าง จะได้ช่วยตรวจสอบกับผู้ตรวจอีกที ว่าได้ทำการตรวจครบถ้วนเรียบร้อยหรือไม่
วันนี้ทีมงาน BCC Living Care Service จะมาแชร์แนวทางในการ ตรวจคอนโด เพื่อให้ผู้อ่านทุกท่านได้ทราบกันว่าจะต้องตรวจอะไรบ้าง และจุดไหนที่จะเป็นจุดสำคัญ และมักจะเจอปัญหาบ่อย แต่ก่อนจะไปดูว่าตรวจอะไรบ้าง ทางเราขอแนะนำว่า ถ้าท่านจะตรวจคอนโดด้วยตัวเอง ควรจะเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เพราะบางจุดเช่นระบบไฟฟ้า อาจจะมีอันตรายถึงชีวิต และเตรียมพลังไปให้พร้อมด้วยนะครับ
ปกติแล้วทีมเราจะตรวจห้องคอนโดจากในไปนอก ความหมายคือ เราจะตรวจจากห้องในสุดก่อน คือห้องน้ำ แล้วไล่มาที่พื้นผนังฝ้าของทุกห้อง จากนั้นมาที่งานประตูและหน้าต่าง แล้วจึงดูระบบไฟฟ้า ระบบประปา และระบบแสงสว่างที่เกี่ยวข้องต่อไป ถ้าพร้อมแล้วเริ่มกันเลยครับ
1. งานภายในห้องน้ำ
มาถึงก็รีบไปปิดท่อ ขังน้ำก่อนเลย เพื่อทดสอบการรั่วซึมของท่อ และยังสามารถทดสอบการระบายน้ำของรูระบายน้ำได้อีกด้วย จากนั้นจึงทดสอบความลาดเอียงของพื้น ให้น้ำไหล ไม่มีน้ำขัง และก็มาดูระบบไฟฟ้าต่างๆ เช่นพัดลมดูดอากาศ หลอดไฟ เครื่องทำนำอุ่น (เช็คสายดิน) สุดท้ายจึงไปดูพวกงานกระเบื้อง พื้นผิว และสุขภัณฑ์ต่างๆ ว่าติดตั้งดี และเรียบร้อยหรือไม่
2. งานพื้น ผนัง และฝ้าของทุกห้อง
ไล่งานสถาปัตยกรรม โดยเริ่มจากพื้น ที่คุณจะต้องดู รอยต่อ ความลาดเอียง ความเรียบร้อย ไม่มีตำหนิ และสุดท้ายเป็นเรื่องของจุดเชื่อมระหว่างพื้นและผนัง รวมถึงการยาแนว ว่าได้ทำครบถ้วนหรือไม่ทุกจุด และต่อมาก็จะเป็นเรื่องผนัง ต้องตรวจดูงานปูน การแตกร่อน เซี้ยมจับมุมผนัง ระนาบของผนัง รอยแตกร้าว สุดท้ายเป็นเรื่องของสี และความสวยงาม ส่วนเรื่องสุดท้ายคือเรื่องฝ้า ต้องตรวจให้ครบทุกจุด ทุกแผ่น รอยต่อ สภาพแผ่น และความสวยงาม
ตัวอย่างจุดบกพร่องงานผนัง
ผิวผนังฉาบแตกร่อน ควร สกัดฉาบผิวผนังใหม่ ก่อนฉาบ ต้องทำความสะอาดผิวให้ดี และ เช็ดให้สะอาด ถ้าไม่ทำการแก้ไข เวลาผู้อยู่อาศัยจะทำการเจาะผนังเพื่อยึดติด หรือ แขวนภาพ ผนังบริเวณที่ร่อนจะแตก จะทำให้ยึดติดยาก และ ไม่สวยงาม
3. งานประตู หน้าต่าง และระเบียง
ตรวจสอบอุปกรณ์ทุกชิ้น มือจับ ลูกบิด บานพับ จนไปถึง งานซิลิโคนรอบหน้าต่าง ที่เป็นจุดสำคัญ อันเนื่องจาก ถ้าฝนสาดเข้ามา แล้วทำหน้าต่างไม่ดี น้ำอาจจะซึมเข้ามาได้ มาถึงกระจกแล้ว ก็ไปดูที่ระเบียงว่ามีจุดไหนที่เป็นจุดบกพร่องบ้าง สุดท้ายจะเป็นเรื่องของการขัดสี การทาสี เพื่อความสวยงามภายในห้อง
ตัวอย่างจุดบกพร่องงานระเบียง
โครงราวกันตกเป็นสนิม ควรเจียร์ผิวรอยเชื่อมให้เรียบแล้วเก็บสีกันสนิมทุกรอยเชื่อมและราวทั้งหมด ถ้าไม่ทำการแก้ไข เวลาผ่านไปนานๆโครงเหล็กจะเป็นสนิมฝังลึกจนอาจจะผุกร่อนและทำให้ราวกันตกไม่แข็งแรง แล้วอาจจะหลุดได้
4. งานครัว
ห้องครัวเป็นจุดที่ควรระวัง การต่อน้ำดี น้ำต้องไหล การต่อน้ำทิ้ง น้ำต้องระบายดี ไม่ขังทำให้เกิดกลิ่นอับ รวมถึงระบบดูดควัน ที่ต้องทำงานได้ดี เพราะป้องกันสัญญาณเตือนจากควัน จากนั้นจึงมาตรวจอุปกรณ์ต่างๆ ที่ทางคอนโดมีให้
ตัวอย่างภาพจุดบกพร่องงานครัว
รอบอ่างล้างจานไม่ได้ซีลซิลิโคนกันน้ำให้เต็มร่อง ควรซีลซิลิโคนรอบอ่างให้เต็มร่อง และ ตัดขอบให้สวยงาม ถ้าไม่ทำการแก้ไข ร่องระหว่าง Top หิน กับอ่างล้างจาน น้ำอาจจะกระเด็นแล้วซึมลงใต้อ่างได้ จะส่งผลให้บริเวณใต้อ่างเป็นคราบน้ำซึม และ จะส่งกลิ่นอับชื้นได้
5. งานเฟอร์นิเจอร์
ให้ตรวจเป็นอย่างสุดท้าย เพราะสุดท้ายแล้วเฟอร์นิเจอร์ จะถูกรับประกันโดยผู้ผลิตแบรนด์ต่างๆ ดังนั้น จึงสามารถเคลมได้อย่างแน่นอนถ้ามีปัญหา แต่ถ้ามีการ Built-In ต้องตรวจสอบความเรียบร้อยของงาน จนไปถึงงานเก็บสี
6. งานระบบต่างๆ
ระบบไฟฟ้า – ตรวจสอบตั้งแต่ท่อร้อยสายไฟ ขนาดสายไฟ รวมไปถึงความเรียบร้อยในการเดินสายไฟ สายดิน ตู้เบรคเกอร์ว่าใส่ได้ตรงขนาดตามโหลดหรือไม่ รวมถึงทดสอบระบบกันดูด และเต้ารับทั้งหมด
ระบบปรับอากาศ – ตรวจสอบท่อระบายน้ำทิ้ง (กันน้ำหยด) ระบบไฟฟ้า น้ำยาแอร์ การรั่วซึมของท่อแอร์
เท่านี้ก็จะพอเห็นภาพแล้วใช่มั้ยครับ ว่าเราต้องตรวจอะไรกันบ้าง ในการ ตรวจห้องคอนโด pantip หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และหากท่านใดต้องการสอบถามเพื่อเจาะลึกข้อมูลในการตรวจคอนโด สามารถแอดไลน์ @BCCSERVICE เข้ามาเพื่อสอบถามได้นะครับ (ไม่จำเป็นต้องว่าจ้าง เรายินดีให้คำปรึกษา)
